การขนส่งสินค้า เปิดการค้า จัดตั้ง ที่ไหน ทำเล !

Click to rate this post!
[Total: 1 Average: 5]

ธุรกิจการขนส่งสินค้า มีรายได้จากอะไรบ้าง

  1. ค่าบริการขนส่ง (Transportation Fees) รายได้หลักมาจากการเรียกเก็บค่าบริการขนส่งสินค้า ซึ่งอาจเป็นค่าเช่ารถ, ค่าบริการขนส่งสินค้าโดยรถบรรทุก, หรือค่าบริการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการขนส่ง

  2. ค่าบริการพิเศษ (Special Services Fees) บางครั้งลูกค้าอาจขอบริการเพิ่มเติมเช่น การเก็บสินค้าในคลัง, บริการแพ็คสินค้า, หรือการจัดการคลังสินค้า ซึ่งอาจทำให้ได้รับรายได้เพิ่มเติม

  3. ค่าบริการในกรณีฉุกเฉิน (Emergency Services Fees) ถ้ามีการส่งสินค้าในกรณีฉุกเฉินหรือภาวะฉุกเฉิน เช่น การส่งสินค้าทางอากาศในกรณีฉุกเฉิน บริษัทอาจเรียกเก็บค่าบริการเพิ่ม

  4. ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม (Additional Charges) รายได้จากค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม เช่น ค่าบริการขนส่งเส้นทางที่ยาก, ค่าบริการจัดส่งในเวลาที่กำหนด, หรือค่าปรับและค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับความพิเศษของการขนส่ง

  5. ค่าใช้จ่ายจากค่าเสื่อมราคา (Depreciation Fees) บริษัทอาจกำหนดค่าใช้จ่ายจากค่าเสื่อมราคารถหรืออุปกรณ์ขนส่งทางบกที่ใช้ในธุรกิจ

  6. รายได้จากสินค้าและบริการเสริม (Ancillary Product and Service Revenues) บางบริษัทการขนส่งสินค้าอาจมีรายได้จากการขายสินค้าเสริม เช่น บริการการแพ็คสินค้า, การจัดการคลังสินค้า, หรือบริการแถลงการณ์

  7. ค่าความเสี่ยงและประกัน (Risk and Insurance Charges) บางบริษัทอาจเสียรายได้จากการให้บริการประกันสินค้าหรือความเสี่ยงในกรณีที่สินค้าเสียหายหรือสูญหายในระหว่างการขนส่ง

  8. รายได้จากค่านายหน้า (Brokerage Fees) บางบริษัทอาจเป็นนายหน้าในการจัดหาการขนส่งสินค้าสำหรับลูกค้าที่ไม่มีรถหรืออุปกรณ์ขนส่งของตัวเอง และได้รับค่านายหน้าจากการจัดหานี้

  9. รายได้จากการจัดการคลังสินค้า (Warehouse Management Revenues) ถ้าบริษัทมีคลังสินค้า บริษัทอาจมีรายได้จากการจัดการและบริหารคลังสินค้าสำหรับลูกค้า

  10. รายได้จากบริการเพิ่มเติม (Additional Services Revenues) บริษัทอาจมีรายได้จากการให้บริการเพิ่มเติมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งสินค้า เช่น การตรวจสอบสินค้า, การบรรทุกและถอดสินค้า, หรือการจัดการคลังสินค้า

วิเคราะห์ Swot Analysis ธุรกิจการขนส่งสินค้า

จุดแข็ง Strengths

  1. อินเฟรนส์โต๊ะค่าขนส่ง ถ้าธุรกิจของคุณมีระบบขนส่งที่มีความเร็วและมีค่าขนส่งที่เป็นไปตามมาตรฐาน นี่จะเป็นจุดแข็งที่สำคัญในการดึงลูกค้า

  2. ความหลากหลายในบริการ การให้บริการขนส่งทางบกและทางน้ำ, รวมถึงบริการแถลงการณ์, การจัดคลังสินค้า, และบริการเสริมอื่น ๆ ที่หลากหลาย ช่วยให้คุณมีความสามารถในการตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่หลากหลาย

  3. พื้นที่คลังสินค้าที่กว้างขวาง ถ้าคุณมีคลังสินค้าที่กว้างขวางและทันสมัย นี่เป็นจุดแข็งที่สามารถใช้ในการเก็บสินค้าของลูกค้าและจัดส่งได้อย่างมีประสิทธิภาพ

  4. เทคโนโลยีที่ทันสมัย การใช้เทคโนโลยีในการติดตามและจัดการการขนส่ง, รวมถึงระบบการจัดการคลังสินค้าและการจัดส่ง เป็นจุดแข็งที่ช่วยลดความผิดพลาดและเพิ่มความเร็วในการให้บริการ

  5. ระบบที่มีประสิทธิภาพในการจัดส่ง ความสามารถในการจัดส่งสินค้าที่มีประสิทธิภาพและตรงเวลาเป็นจุดแข็งสำหรับความไวในการให้บริการ

จุดอ่อน Weaknesses

  1. ค่าใช้จ่ายสูง ค่าใช้จ่ายในธุรกิจการขนส่งสินค้าอาจสูงมาก เนื่องจากต้องดูแลรักษารถขนส่ง, ค่านายหน้า, และค่าใช้จ่ายในการดำเนินการอื่น ๆ

  2. ความขึ้นตรงของราคาน้ำมัน ราคาน้ำมันมีผลต่อค่าใช้จ่ายในการขนส่ง การเป็นที่ขึ้นตรงของราคาน้ำมันอาจส่งผลต่อกำไรของธุรกิจ

  3. ความเป็นกลางทางเทคโนโลยี ถ้าไม่ทันสมัยในการใช้เทคโนโลยีในการติดตามและจัดการการขนส่ง อาจทำให้เสียลูกค้าและความไวในการให้บริการ

  4. การสอบสวนและการควบคุม การตรวจสอบและการควบคุมในธุรกิจการขนส่งสินค้ามีความสำคัญ เนื่องจากมีกฎหมายและข้อกำหนดทางรัฐบาลที่เข้มงวด ความเป็นอิสระในการดำเนินธุรกิจอาจลดลง

โอกาส Opportunities

  1. การขยายธุรกิจ การขยายธุรกิจการขนส่งไปยังพื้นที่ใหม่หรือเสริมเติมบริการเพิ่มเติม เช่น การขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ, บริการจัดส่งในเวลาที่กำหนด, หรือบริการคลังสินค้า เป็นโอกาสที่ดีในการขยายธุรกิจ

  2. การใช้เทคโนโลยีในการพัฒนา การใช้เทคโนโลยีในการพัฒนาบริการ, เช่น การใช้ระบบติดตามสินค้าแบบเรียลไทม์, การใช้ระบบความปลอดภัยทางด้านเทคโนโลยี, หรือการใช้งานหุ่นยนต์ในการจัดส่ง สามารถเป็นโอกาสในการเพิ่มความสามารถและประสิทธิภาพ

  3. เพิ่มความยืดหยุ่นในบริการ การเสนอบริการที่ยืดหยุ่นและปรับตามความต้องการของลูกค้า สามารถดึงดูดลูกค้าใหม่และรักษาลูกค้าที่มีอยู่

  4. สิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน ความเต็มใจในการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและการพัฒนาวิธีการที่ยั่งยืนสามารถสร้างโอกาสในการขยายธุรกิจและขนส่งสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

ความเสี่ยง Threats

  1. การแข่งขันที่รุนแรง ธุรกิจการขนส่งสินค้ามีการแข่งขันที่รุนแรง โดยมีผู้ให้บริการหลายรายที่มีความสามารถในการรับงานขนส่ง

  2. ค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น ค่าใช้จ่ายในการดำเนินธุรกิจการขนส่งสินค้าอาจเพิ่มขึ้นเนื่องจากค่าน้ำมันและค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการที่เพิ่มขึ้น

  3. ความขาดแคลนของพนักงาน หากมีความขาดแคลนของพนักงานที่มีความสามารถในการขนส่งสินค้า, อาจส่งผลให้คุณไม่สามารถให้บริการลูกค้าตามเวลาที่กำหนด

  4. ความเสี่ยงจากเหตุการณ์ฉุกเฉิน ภัยธรรมชาติ, การชุมนุม, หรือเหตุการณ์ไม่คาดคิดอื่น ๆ อาจส่งผลกระทบต่อการขนส่งและการให้บริการ

อาชีพ ธุรกิจการขนส่งสินค้า ใช้เงินลงทุนอะไร

  1. ยานพาหนะ คุณอาจต้องลงทุนในการซื้อหรือเช่ายานพาหนะที่เหมาะสมสำหรับการขนส่งสินค้า เช่น รถบรรทุก, รถกระบะ, รถบรรทุกสินค้าทั่วไป, รถบรรทุกเย็น, หรือรถพาหนะพิเศษที่ใช้ในการขนส่งสินค้าต่าง ๆ

  2. ค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการ ค่าใช้จ่ายสำหรับการดำเนินการประจำวันของธุรกิจ เช่น ค่านายหน้า, ค่าจัดการคลังสินค้า, ค่าตรวจสอบสินค้า, ค่าเช่าที่เก็บสินค้า, ค่าน้ำมันเชื้อเพลิง, ค่าปรับและค่าใช้จ่ายอื่น ๆ

  3. เทคโนโลยีและซอฟต์แวร์ การลงทุนในระบบเทคโนโลยีและซอฟต์แวร์สำหรับการติดตามและจัดการการขนส่ง เช่น ระบบ GPS, ระบบสร้างเส้นทาง, ซอฟต์แวร์การจัดการคลังสินค้า, ระบบบริหารจัดการ, และระบบอื่น ๆ ที่เสริมความสามารถในการขนส่ง

  4. คลังสินค้า ถ้าคุณจัดเก็บสินค้าสำหรับลูกค้าของคุณ คุณจะต้องลงทุนในการเช่าหรือสร้างคลังสินค้า คลังสินค้าควรมีพื้นที่เพียงพอและระบบการจัดเก็บสินค้าที่เหมาะสม

  5. การปรับปรุงยานพาหนะ การบำรุงรักษารถและอุปกรณ์ขนส่งเพื่อให้รถใช้งานได้ตลอดเวลาและประสิทธิภาพสูงสุด

  6. ค่าใช้จ่ายในการสร้างและบรรจุสินค้า ถ้าคุณให้บริการการแพ็คหรือจัดส่งสินค้า, คุณอาจต้องลงทุนในการสร้างสิ่งบรรจุและการแพ็คสินค้า

  7. การตลาดและโฆษณา การลงทุนในการตลาดและโฆษณาเพื่อสร้างรู้จักและดึงดูดลูกค้า

  8. การประกันความเสี่ยง การเอาประกันความเสี่ยงเพื่อป้องกันความสูญเสียจากเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด เช่น การสูญหายของสินค้าหรือการเกิดอุบัติเหตุ

  9. สถานที่ทำงาน ค่าเช่าหรือค่าซื้อสำนักงานหรือคลังสินค้า หรือการจ้างพื้นที่เพิ่มเติมในกรณีที่ต้องการ

  10. การฝึกอบรมพนักงาน การฝึกอบรมพนักงานเพื่อให้พวกเขามีความรู้และทักษะที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งและบริการลูกค้า

อาชีพ ที่เกี่ยวข้องกับ ธุรกิจการขนส่งสินค้า

  1. คนขับรถขนส่ง คนขับรถบรรทุกและพนักงานขับรถขนส่งเป็นกลุ่มคนที่สำคัญในธุรกิจการขนส่งสินค้า เขาคือผู้ที่ควบคุมยานพาหนะและรับผิดชอบในการจัดส่งสินค้าให้ถึงจุดหมาย

  2. ผู้จัดการคลังสินค้า ผู้จัดการคลังสินค้ารับผิดชอบในการจัดการและควบคุมสินค้าในคลัง เขาต้องควบคุมการรับส่งสินค้า, การจัดเก็บ, การบริหารความสมบูรณ์ของสินค้า, และการควบคุมคลังสินค้าให้มีประสิทธิภาพ

  3. นักวางแผนการขนส่ง นักวางแผนการขนส่งรับผิดชอบในการวางแผนการจัดส่งสินค้าให้เหมาะสม รวมถึงการเลือกเส้นทางและการจัดส่งให้ตรงตามเวลาที่กำหนด

  4. ผู้จัดการธุรกิจ ผู้จัดการธุรกิจมีความรับผิดชอบในการบริหารจัดการทั้งภาคธุรกิจการขนส่งสินค้า เขาต้องวางแผนยุทธศาสตร์, การตลาด, การเงิน, และการบริหารทรัพยากรทั้งหมดในธุรกิจ

  5. พนักงานบริการลูกค้า พนักงานบริการลูกค้ารับผิดชอบในการติดต่อกับลูกค้า, ตอบคำถาม, แก้ไขปัญหา, และให้บริการลูกค้าให้พอใจ

  6. นักวิเคราะห์ข้อมูล นักวิเคราะห์ข้อมูลใช้เทคโนโลยีและเครื่องมือการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อติดตามและประเมินประสิทธิภาพในการขนส่ง, คลังสินค้า, และการจัดส่ง

  7. นักบริหารความเสี่ยง นักบริหารความเสี่ยงรับผิดชอบในการจัดการความเสี่ยงในการขนส่ง รวมถึงความปลอดภัยของสินค้าและยานพาหนะ

  8. นักการตลาดและโฆษณา นักการตลาดและโฆษณาเป็นคนที่ช่วยในการตลาดธุรกิจการขนส่งสินค้าและดึงดูดลูกค้าใหม่

  9. นักวิจัยและพัฒนา นักวิจัยและพัฒนาช่วยในการพัฒนาเทคโนโลยีและระบบใหม่เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการขนส่งสินค้า

  10. ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายและการปฏิบัติตามกฎหมาย ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายในธุรกิจการขนส่งสินค้ารับผิดชอบในการปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งและความรับผิดชอบ

คําศัพท์พื้นฐาน ธุรกิจการขนส่งสินค้า ที่ควรรู้

  1. ขนส่งสินค้า (Cargo Transport)

    • คำอธิบาย กระบวนการการย้ายสินค้าจากสถานที่หนึ่งไปยังอีกสถานที่หนึ่ง โดยใช้ยานพาหนะ เช่น รถบรรทุก, เครื่องบิน, เรือ, หรือรถไฟ
    • ภาษาอังกฤษ Cargo Transport
  2. โลจิสติกส์ (Logistics)

    • คำอธิบาย กระบวนการการจัดการและควบคุมการขนส่ง, คลังสินค้า, และการจัดส่งสินค้าเพื่อให้บรรลุความเร็วและความมีประสิทธิภาพในการจัดส่งสินค้า
    • ภาษาอังกฤษ Logistics
  3. รถบรรทุก (Truck)

    • คำอธิบาย ยานพาหนะที่ใช้ในการขนส่งสินค้าทางบก มีขนาดและความจุต่าง ๆ ตามการใช้งาน
  4. คลังสินค้า (Warehouse)

    • คำอธิบาย สถานที่ที่สินค้าถูกจัดเก็บและเก็บรักษา โดยมีระบบการจัดเก็บและการควบคุมสินค้า
  5. ระบบ GPS (Global Positioning System)

    • คำอธิบาย เทคโนโลยีที่ใช้ในการติดตามและระบุตำแหน่งที่ตั้งของยานพาหนะหรืออุปกรณ์โดยใช้สัญญาณจากดาวเทียม
  6. การควบคุมสินค้า (Inventory Control)

    • คำอธิบาย กระบวนการการจัดการและควบคุมจำนวนสินค้าในคลังสินค้าเพื่อรักษาความสมดุลและความพร้อมในการจัดส่ง
  7. ค่าเช่าที่เก็บสินค้า (Storage Rent)

    • คำอธิบาย ค่าใช้จ่ายที่เสียในการเช่าพื้นที่หรือคลังสินค้าสำหรับการจัดเก็บสินค้า
  8. การค้าส่งสินค้า (Freight Shipping)

    • คำอธิบาย กระบวนการการส่งสินค้าจากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่งโดยใช้บริการขนส่ง ซึ่งอาจเป็นทางบก, ทางน้ำ, ทางอากาศ, หรือทางรถไฟ
  9. รถพาหนะสามัญ (Common Carrier)

    • คำอธิบาย บริษัทหรือบริการขนส่งที่ให้บริการส่งสินค้าให้กับบุคคลหรือบริษัททั่วไป โดยไม่จำกัดการใช้งานเฉพาะในบริการใด ๆ
  10. สินค้าบริการ (Cargo Handling)

    • คำอธิบาย กระบวนการการจัดการและควบคุมการจัดส่งและการเคลื่อนย้ายสินค้าในคลังสินค้าหรือระหว่างการขนส่ง

จดบริษัท ธุรกิจการขนส่งสินค้า ทำอย่างไร

  1. การวางแผนและศึกษาความเป็นไปได้ ก่อนจะจดบริษัท คุณควรทำการวางแผนธุรกิจของคุณให้เรียบร้อย รวมถึงการศึกษาความเป็นไปได้และการแข่งขันในตลาดการขนส่งสินค้า

  2. เลือกชื่อบริษัท คุณต้องเลือกชื่อบริษัทที่ไม่ซ้ำกับบริษัทอื่น ๆ ที่มีอยู่และต้องประสงค์พิจารณาความเหมาะสมของชื่อกับการดำเนินธุรกิจของคุณ

  3. สร้างเอกสารก่อตั้งบริษัท คุณจะต้องเตรียมเอกสารก่อตั้งบริษัท เช่น พันธกิจบริษัท, สมุดโน้ตและสมุดแจ้งยอดทุน

  4. ลงทะเบียนบริษัท คุณจะต้องลงทะเบียนบริษัทกับหน่วยงานที่รับผิดชอบในการจดทะเบียนบริษัทในประเทศของคุณ เช่น กรมพัฒนาธุรกิจการค้า หรือหน่วยงานที่คล้ายกัน

  5. จัดทำเอกสารสถานที่ตั้ง คุณจะต้องมีเอกสารที่รับรองสถานที่ตั้งของบริษัท เช่น สัญญาเช่าหรือหนังสือรับรองการทำงานของสถานที่ตั้ง

  6. จดทะเบียนกิจการ บริษัทที่จดในประเทศหลาย ๆ แห่งจะต้องจดทะเบียนกิจการและได้รับหมายเลขที่จดทะเบียนกิจการ (Business Registration Number) จากหน่วยงานที่รับผิดชอบ

  7. เปิดบัญชีธนาคาร คุณจะต้องเปิดบัญชีธนาคารสำหรับบริษัท เพื่อการทำธุรกรรมการเงินของบริษัท

  8. ขอใบอนุญาตและการรับรอง อาจมีความจำเป็นในการขอใบอนุญาตหรือการรับรองเพิ่มเติมตามกฎหมายหรือประเทศที่คุณตั้งธุรกิจ

  9. จัดทำเอกสารภาษี คุณจะต้องเตรียมเอกสารที่เกี่ยวข้องกับภาษี เช่น การลงทะเบียนภาษีขาย (VAT) หรือการประมวลภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (บิล)

  10. เริ่มดำเนินธุรกิจ หลังจากที่คุณได้จดบริษัทและทำขั้นตอนทั้งหมด คุณสามารถเริ่มดำเนินธุรกิจการขนส่งสินค้าของคุณได้

บริษัท ธุรกิจการขนส่งสินค้า เสียภาษีอะไร

  1. ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (Personal Income Tax) ถ้าคุณเป็นเจ้าของธุรกิจแบบรายรับ-รายจ่าย (sole proprietorship) หรือบริษัทในรูปแบบผู้ประกอบการคนเดียว (sole proprietorship) คุณอาจต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาตามรายได้ที่คุณได้รับจากธุรกิจของคุณ

  2. ภาษีเงินได้ของนิติบุคคล (Corporate Income Tax) บริษัทจะต้องเสียภาษีเงินได้ของนิติบุคคลตามกำหนดของรัฐบาลในประเทศที่ตั้งบริษัท

  3. ภาษีมูลค่าเพิ่ม (Value Added Tax – VAT) บริษัทอาจต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มเมื่อขายสินค้าหรือบริการ โดยภาษีนี้อาจมีอัตราที่แตกต่างกันไปในแต่ละประเทศ

  4. ภาษีน้ำมันและพลังงาน (Fuel and Energy Taxes) หากบริษัทของคุณมีรถบรรทุกหรือยานพาหนะที่ใช้น้ำมันหรือพลังงาน เช่น น้ำมันดีเซลหรือแก๊สโซฮอล์ คุณอาจต้องเสียภาษีเพิ่มเติมที่เกี่ยวข้อง

  5. ภาษีสถานที่ตั้ง (Property Tax) หากคุณเป็นเจ้าของที่ดินหรืออสังหาริมทรัพย์ที่ใช้ในการดำเนินธุรกิจ คุณอาจต้องเสียภาษีสถานที่ตั้งตามระเบียบของพื้นที่

  6. ค่าใช้จ่ายสาธารณูปโภค (Utilities) ค่าน้ำประปา ค่าไฟฟ้า และค่าโทรศัพท์ที่ใช้ในธุรกิจอาจต้องเสียให้กับผู้ให้บริการ

  7. ค่าแรงงาน (Labor Costs) ค่าจ้างพนักงานและประวัติศาสตร์จ้างงานอาจมีผลต่อค่าใช้จ่ายในภาษี

  8. ภาษีอสังหาริมทรัพย์ (Property Tax) คุณอาจต้องเสียภาษีอสังหาริมทรัพย์ตามมูลค่าของสิ่งที่คุณเป็นเจ้าของ เช่น รถบรรทุกหรือคลังสินค้า

  9. ภาษีสรรพสามิต (Excise Tax) ภาษีสรรพสามิตเรียกกันอีกชื่อหนึ่งว่า “ภาษีสำหรับการใช้สิทธิ์หรือการส่งเสริม” และมักถูกเรียกเก็บสำหรับสินค้าหรือบริการที่มีความหลากหลาย เช่น รถยนต์หรูหรา แอลกอฮอล์ และบุหรี่

  10. ภาษีสัญญา (Contract Tax) หากคุณมีสัญญาหรือข้อตกลงกับหน่วยงานรัฐบาลหรือบุคคลอื่น คุณอาจต้องเสียภาษีสัญญาตามระเบียบของประเทศ

อ่านบทความทั้งหมด >>> จดทะเบียนบริษัท.com

ในปัจจุบัน เปิดการค้า จัดตั้ง ที่ไหน ทำเล !

ธุรกิจเล็กๆ สำหรับวัยรุ่น การเริ่มต้นทําธุรกิจ startup มือใหม่ การเริ่มต้นธุรกิจควรเริ่มอย่างไร เริ่มต้นธุรกิจเล็กๆ แนวคิดการเริ่มต้นธุรกิจ วิธีการสร้างธุรกิจใหม่มี 3 วิธี ธุรกิจรวยเงียบ ธุรกิจที่น่าสนใจในอนาคต ออนไลน์

นักจิตวิทยาออนไลน์ เปิดการค้า ที่ไหน คู่แข่ง รายได้ !

ปรึกษานักจิตวิทยา ออนไลน์ ฟรี นักจิตบําบัด เรียนออนไลน์ เรียนจิตวิทยา ออนไลน์ จุฬา เรียน จิตวิทยา ออนไลน์ฟรี 2566 แอพปรึกษาจิตแพทย์ ฟรี คอร์สเรียนจิตวิทยาออนไลน์ ฟรี เรียน ป.ตรี จิตวิทยา ออนไลน์ ปรึกษานักจิตวิทยา ฟรี

เหล็กดัด เปิดการค้า จัดตั้ง ที่ไหน ทำเล !

เหล็กดัดหน้าต่าง โม เดิ ร์ น. ราคา เหล็กดัดหน้าต่างบานเลื่อน เหล็กดัด สําเร็จรูป เหล็กดัดหน้าต่างราคาถูก เหล็กดัดหน้าต่าง โมเดิร์น เหล็กดัด ไทวัสดุ เหล็กดัดหน้าต่างสําเร็จรูป ไทวัสดุ เหล็กดัดหน้าต่างไม้ ราคา ออนไลน์

โต๊ะจีน เปิดการค้า จัดตั้ง ที่ไหน ทำเล !

ธุรกิจโต๊ะจีน  เรียน ทำ โต๊ะจีน โต๊ะจีน 6,000 ออนไลน์

รับดูแลแฟนเพจเฟซบุ๊ก เปิดการค้า ที่ไหน คู่แข่ง รายได้ !

รับดูแลเพจ รายเดือน แพ็คเกจ ดูแลเพจ รับดูแลเพจ facebook ราคาถูก รับดูแลเพจครบวงจร รับดูแลเพจ ยิงแอด แอดมินดูแลเพจ เงินเดือน รับดูแลเพจ pantip รับสมัครแอดมินตอบลูกค้า

ผลไม้อบแห้ง เปิดการค้า ที่ไหน คู่แข่ง รายได้ !

ขั้นตอนการผลิตผลไม้อบแห้ง, วิธีทําผลไม้อบแห้ง ไมโครเวฟ, วิธีทําผลไม้อบแห้ง pantip, วิธีทําผลไม้อบแห้ง เตาอบ, วิธี อบแห้ง แบบ ธรรมชาติ, การแปรรูปผลไม้อบแห้ง, ผลไม้อบแห้ง อันตราย, ผลไม้อบแห้ง เพื่อสุขภาพ,

ธุรกิจโซล่าเซลล์ เปิดการค้า ที่ไหน คู่แข่ง รายได้ !

แผนธุรกิจโซล่าเซลล์ แนวโน้ม ธุรกิจ โซ ล่า เซลล์ การเป็น ตัวแทน จำหน่าย โซ ล่า เซลล์ แนวโน้มธุรกิจโซล่าเซลล์ แฟรนไชส์ โซล่าเซลล์ โซล่าฟาร์ม 1 ไร่ ลงทุน ธุรกิจโซล่าเซลล์  โซ ล่า ฟาร์ม ใบอนุญาต

Leave a Comment

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Scroll to Top