ขายของใน amazon
การเริ่มต้นทำธุรกิจขายของใน Amazon ต้องผ่านขั้นตอนต่อไปนี้
-
เลือกสินค้าหรือประเภทสินค้า คิดและเลือกสินค้าที่คุณต้องการขายใน Amazon โดยพิจารณาถึงความนิยมของสินค้า ความสามารถในการแข่งขัน และข้อดีของคุณเองในการขายสินค้าดังกล่าว
-
วางแผนธุรกิจ กำหนดเป้าหมายของธุรกิจของคุณ วางแผนการเชื่อมต่อกับผู้จัดจำหน่าย การจัดการคลังสินค้า และวิธีการส่งสินค้า
-
สร้างบัญชี Amazon Seller ไปที่เว็บไซต์ Seller Central ของ Amazon และลงทะเบียนเป็นผู้ขาย (seller) ใหม่ โดยกรอกข้อมูลและเอกสารที่จำเป็นตามที่ระบุ
-
สร้างรายชื่อผลิตภัณฑ์ เพิ่มรายละเอียดสินค้าของคุณ เช่น ชื่อสินค้า เกร็ดความรู้ คำอธิบาย ราคา และรูปภาพ
-
จัดการการจัดส่ง เลือกวิธีการจัดส่งสินค้า เช่น การจัดส่งโดยตรงจากคุณเอง หรือใช้บริการของ Amazon อย่าง Fulfillment by Amazon (FBA) ซึ่งจะช่วยจัดเก็บสินค้าและจัดส่งให้คุณ
-
ตั้งราคาสินค้า กำหนดราคาที่เหมาะสมสำหรับสินค้าของคุณโดยพิจารณาถึงต้นทุนการผลิต ราคาตลาด และกำไรที่คุณต้องการ
-
การโฆษณาและการตลาด สร้างแผนการตลาดในเว็บไซต์ Amazon หรือโซเชียลมีเดียอื่น ๆ เพื่อเพิ่มการมองเห็นของสินค้าของคุณและดึงดูดลูกค้า
-
ติดตามการขายและการปรับปรุง ตรวจสอบผลการขายของคุณบน Amazon Seller Central และวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อปรับแก้แผนการขายในอนาคต
อย่าลืมปฏิบัติตามนโยบายและข้อกำหนดของ Amazon เพื่อให้การทำธุรกิจของคุณเป็นไปตามกฎหมายและการแสดงความปลอดภัยของผู้ซื้อและผู้ขาย
ขายของใน amazon มีรายจากอะไรบ้าง
รายได้จากการขายของใน Amazon สามารถมาจากหลายแหล่งต่าง ๆ ดังนี้
-
กำไรจากการขายสินค้า เมื่อคุณขายสินค้าใน Amazon และมีการขายเกิดขึ้น คุณจะได้รับกำไรจากความแตกต่างระหว่างราคาขายและต้นทุนการจัดหาสินค้า เมื่อคุณคำนวณต้นทุนต่าง ๆ อย่างชัดเจนแล้ว กำไรที่ได้รับจะเป็นส่วนแบ่งของคุณ
-
ค่าบริการของ Amazon Amazon มีค่าบริการที่คิดจากการขายสินค้าของคุณ ซึ่งอาจเป็นค่าติดต่อหรือค่าบริการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการขายสินค้าในแพลตฟอร์มของพวกเขา
-
ค่าจัดส่ง เมื่อคุณใช้บริการจัดส่งของ Amazon เช่น Fulfillment by Amazon (FBA) ค่าบริการจัดส่งจะถูกหักจากรายได้ของคุณ ค่าจัดส่งขึ้นอยู่กับน้ำหนักและขนาดของสินค้า รวมถึงระยะทางการจัดส่ง
-
ค่าสมาชิก Amazon Prime หากคุณเป็นสมาชิก Amazon Prime และสินค้าของคุณมีสิทธิ์ในการเข้าร่วมโปรโมชั่น Prime คุณอาจได้รับส่วนลดหรือสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมจากนั้น
-
อื่น ๆ นอกจากนี้ยังมีรายได้อื่น ๆ ที่อาจเกิดขึ้นจากกิจกรรมเสริมใน Amazon เช่น การขายสินค้าที่เกี่ยวข้อง, บริการเสริม เช่น Amazon Advertising หรือการขายสินค้าในหมวดหมู่ที่มีค่าสูงกว่าเช่นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
สำหรับแต่ละรายได้ที่กล่าวมานี้ การตั้งราคาสินค้าและค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องจะมีผลต่อกำไรที่คุณสามารถทำได้จากธุรกิจของคุณใน Amazon
วิเคราะห์ Swot Analysis ขายของใน amazon
SWOT analysis (วิเคราะห์ SWOT) เป็นเครื่องมือที่ช่วยในการวิเคราะห์ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ เพื่อให้คุณสามารถรับรู้ความแข็งแกร่งและความอ่อนแอของธุรกิจของคุณ ต่อไปนี้เป็นตัวอย่างของ SWOT analysis สำหรับการขายของใน Amazon
- จุดแข็ง (Strengths)
- พื้นที่ตลาดใหญ่ Amazon เป็นแพลตฟอร์มออนไลน์ที่มีลูกค้าจำนวนมาก ซึ่งช่วยเพิ่มโอกาสในการขายสินค้าของคุณให้กับกลุ่มลูกค้าที่มีขนาดใหญ่
- บริการจัดส่ง บริการ Fulfillment by Amazon (FBA) ช่วยให้คุณสามารถจัดเก็บสินค้าและจัดส่งให้กับลูกค้าได้อย่างสะดวกสบาย ซึ่งช่วยเพิ่มความพึงพอใจของลูกค้า
- ข้อมูลลูกค้า Amazon มีข้อมูลลูกค้าที่มีคุณค่า ซึ่งสามารถใช้ในการสร้างกลยุทธ์การตลาดและการเป้าหมายกลุ่มลูกค้า
- จุดอ่อน (Weaknesses)
- ความแข็งแกร่งของคู่แข่ง การขายสินค้าใน Amazon มีความแข่งขันที่สูง ซึ่งอาจทำให้ยากต่อการแยกตัวออกมาและเติบโตอย่างยั่งยืน
- ขึ้นอยู่กับแพลตฟอร์ม เนื่องจากธุรกิจของคุณอยู่บนแพลตฟอร์มของ Amazon คุณอาจต้องปฏิบัติตามนโยบายและข้อกำหนดของ Amazon ซึ่งอาจจำกัดความเสรีของธุรกิจของคุณ
- โอกาส (Opportunities)
- การเข้าถึงตลาดทั่วโลก Amazon เป็นแพลตฟอร์มระดับโลกที่ช่วยให้คุณสามารถเข้าถึงลูกค้าในทุกมุมโลกได้ ซึ่งเป็นโอกาสในการขยายตลาดและเพิ่มยอดขายของคุณ
- พฤติกรรมการซื้อออนไลน์เพิ่มขึ้น ความสะดวกสบายและความปลอดภัยในการซื้อสินค้าออนไลน์ได้เพิ่มขึ้น ซึ่งช่วยส่งเสริมให้มีการเติบโตในการซื้อขายออนไลน์
- อุปสรรค (Threats)
- คู่แข่งแรงขึ้น ยังมีผู้ค้าออนไลน์อื่น ๆ ที่แข่งขันในตลาดออนไลน์ ซึ่งอาจมีผลต่อความสำเร็จและกำไรของธุรกิจของคุณ
- ข้อจำกัดกฎหมาย กฎหมายท้องถิ่นและสากลอาจมีผลต่อธุรกิจของคุณในเชิงกฎหมายและการประกันคุณภาพสินค้า
การวิเคราะห์ SWOT ช่วยให้คุณสามารถระบุปัจจัยที่ส่งผลต่อธุรกิจของคุณได้อย่างชัดเจน ทำให้คุณสามารถกำหนดกลยุทธ์และวางแผนการพัฒนาที่เหมาะสมเพื่อให้ธุรกิจของคุณเติบโตและประสบความสำเร็จในแพลตฟอร์ม Amazon ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
คําศัพท์พื้นฐาน ขายของใน amazon ที่ควรรู้
- ผลิตภัณฑ์ (Product) – สินค้าหรือสิ่งของที่ขายใน Amazon
- ตลาด (Market) – กลุ่มลูกค้าหรือกลุ่มเป้าหมายที่เราต้องการเข้าถึง
- การจัดส่ง (Shipping) – กระบวนการส่งสินค้าถึงลูกค้าหลังจากการซื้อสินค้า
- การตลาด (Marketing) – กิจกรรมที่ใช้เพื่อสร้างความรู้สึกและสร้างความสนใจในผลิตภัณฑ์
- ความแตกต่าง (Differentiation) – จุดเด่นหรือคุณสมบัติที่ทำให้ผลิตภัณฑ์ของคุณแตกต่างจากคู่แข่ง
- ราคา (Price) – ราคาที่กำหนดสำหรับสินค้าที่ขายใน Amazon
- การควบคุมคุณภาพ (Quality Control) – กระบวนการตรวจสอบและควบคุมคุณภาพสินค้าเพื่อให้มีคุณภาพตามมาตรฐาน
- ความเชื่อถือ (Trust) – ความไว้วางใจของลูกค้าในการซื้อสินค้าจากบริษัทของคุณ
- บทบาทของลูกค้า (Customer Role) – บทบาทที่ลูกค้าเล่นในกระบวนการซื้อ-ขายใน Amazon
- การติดต่อลูกค้า (Customer Communication) – กระบวนการสื่อสารกับลูกค้าเพื่อให้บริการหรือแก้ไขปัญหาต่าง ๆ
จดบริษัท ขายของใน amazon ทำอย่างไร
การจดทะเบียนบริษัทที่ขายสินค้าใน Amazon ขึ้นอยู่กับกฎหมายและข้อกำหนดในประเทศที่คุณต้องการจดตั้งบริษัท แต่โดยทั่วไปแล้ว ขั้นตอนหลักสำหรับการจดทะเบียนบริษัทมีดังนี้
-
วางแผนธุรกิจ กำหนดกฎหมายของประเทศที่คุณต้องการจดตั้งบริษัท และวางแผนธุรกิจของคุณเพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายและข้อกำหนดที่กำหนดไว้
-
เลือกชนิดของบริษัท ตรวจสอบกฎหมายท้องถิ่นเพื่อรู้ว่าคุณควรจดตั้งบริษัทในรูปแบบใด เช่น บริษัทจำกัด, บริษัทห้างหุ้นส่วน, บริษัทมหาชน ฯลฯ
-
ตรวจสอบชื่อบริษัท ตรวจสอบความเป็นไปได้ของชื่อบริษัทที่คุณต้องการใช้ โดยตรวจสอบกับทางราชการท้องถิ่นหรือหน่วยงานที่รับจดทะเบียนบริษัทในประเทศของคุณ
-
จดทะเบียนบริษัท ส่งเอกสารที่จำเป็นและค่าธรรมเนียมให้กับหน่วยงานที่รับจดทะเบียนบริษัท ในประเทศของคุณ โดยอาจมีการแนบเอกสารต่าง ๆ เช่น สำเนาบัตรประชาชนผู้ก่อตั้ง, สำเนาสัญญาก่อตั้งบริษัท เป็นต้น
-
รับหนังสือรับรองการจดทะเบียน เมื่อคำขอจดทะเบียนบริษัทของคุณได้รับการอนุมัติและรับรอง คุณจะได้รับหนังสือรับรองการจดทะเบียนบริษัท หรือหนังสือสำคัญอื่น ๆ ที่ระบุสถานะของบริษัท
อย่าลืมปรึกษาที่ทนายความหรือผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายท้องถิ่นเพื่อให้แน่ใจว่าคุณปฏิบัติตามข้อกำหนดทางกฎหมายและขั้นตอนที่ถูกต้องในการจดทะเบียนบริษัทในประเทศของคุณ
บริษัท ขายของใน amazon เสียภาษีอะไร
การเสียภาษีสำหรับบริษัทที่ขายสินค้าใน Amazon ขึ้นอยู่กับกฎหมายและระเบียบของประเทศที่บริษัทดำเนินธุรกิจ ต่อไปนี้เป็นภาพรวมของภาษีที่อาจมีการเสียในบางประเทศ
-
ภาษีธุรกิจ บริษัทที่ขายสินค้าใน Amazon อาจต้องเสียภาษีธุรกิจหรือภาษีเงินได้ที่เกี่ยวข้องกับกำไรที่ได้รับจากการขายสินค้า
-
ภาษีการขาย (VAT/GST) ในบางประเทศ การขายสินค้าออนไลน์อาจต้องเสียภาษีการขาย (Value Added Tax/Goods and Services Tax) ที่เกี่ยวข้องกับมูลค่าเพิ่มของสินค้า
-
ภาษีนิติบุคคล บริษัทอาจต้องเสียภาษีนิติบุคคลหรือภาษีส่วนแบ่งรายได้ที่เกี่ยวข้องกับกำไรที่ได้รับจากธุรกิจ
-
ภาษีส่งออกหรือภาษีนำเข้า ถ้าบริษัทของคุณมีการนำเข้าหรือส่งออกสินค้าไปยังประเทศอื่น ๆ อาจมีการเสียภาษีส่งออกหรือภาษีนำเข้าตามกฎหมายของแต่ละประเทศที่เกี่ยวข้อง
-
อื่น ๆ มีภาษีหรือค่าธรรมเนียมอื่น ๆ ที่อาจมีการเสียเพิ่มเติมเช่น ภาษีอสังหาริมทรัพย์ หรือค่าใช้จ่ายในการรักษาประกันสุขภาพ
ควรปรึกษาที่ทนายความหรือผู้เชี่ยวชาญด้านภาษีในประเทศที่บริษัทของคุณดำเนินธุรกิจเพื่อให้คำแนะนำและข้อมูลที่เป็นปัจจุบันเกี่ยวกับการเสียภาษีและรายละเอียดที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์ของคุณ
อ่านบทความทั้งหมด >>> จดทะเบียนบริษัท.com